เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์ ( Erling Braut Haaland ) เกิด 21 กรกฎาคม ค.ศ.2000 ณ เมืองลีดส์ ประเทศอังกฤษ เป็นชาวนอร์เวย์ ส่วนสูง 195 เซนติเมตร อายุ 24 ปี ครอบครัวของฮาแลนด์มีทั้งหมด 5 คน ฮาแลนด์เป็นบุตรของ Alf-Inge Haaland อดีตนักฟุตบอลของน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ลีดส์ ยูไนเต็ด และ แมนฯซิตี้ ส่วน Gry Marita Braut อดีตนักสัตตกรีฑาหญิง ถือได้เป็นครอบครัวคนกีฬาอย่างแท้จริง ฮาแลนด์ มีพี่ชาย Astor และ พี่สาว Gabrielle ต่อมาในปี 2004 ฮาแลนด์ย้ายกลับไปที่บ้านเกิดของพ่อแม่ที่ไบรน์ ในประเทศนอร์เวย์ ชีวิตในวัยเด็กของ ฮาแลนด์ มีความสุขกับความสัมพันธ์ฉันพี่น้องที่สมบูรณ์แบบ ตอนเป็นเด็กเขาเต็มไปด้วยพลัง เขาได้เติบโตมาในเมืองไบรน์แห่งประเทศนอร์เวย์ เขาเป็นเด็กที่ชอบการเล่น รักสนุก ชอบกิจกรรมและเป็นคนที่มีความกระฉับกระเฉง ชอบเล่นฟุตบอลกับเพื่อนๆ นอกจากนี้ เขายังสนใจในกิจกรรมการออกกำลังกายที่หลากหลาย เช่น กอล์ฟ กรีฑา และแฮนด์บอล ส่วนในปี 2006 หลายคนอาจไม่อยากเชื่อเจ้าหนูฮาแลนด์ ได้ทำลายสถิติโลก จากการแข่งขันกระโดดไกล ฮาแลนด์ สามารถกระโดดได้ถึง 1.63 เมตร และเป็นสถิติโลกจนถึงทุกวันนี้ เจ้าหนูคนนี้เริ่มจริงจังกับฟุตบอลตั้งแต่อายุ 5ขวบ กับทีมในบ้านเกิดของพ่อแม่เขา ฮาแลนด์ บอกว่าเขามีต้นแบบในการเล่นฟุตบอลอยู่หลายคน แต่คนที่มีอิทธิพลต่อการเล่นฟุตบอลของเค้ามากที่สุดกับเป็นกองหน้าร่างยักษ์ชาวสวีเดน อย่าง ซลาตัน อิบราฮิมโมวิช
Erling Braut Haaland เริ่มเส้นทางลูกหนังกับทีมเยาวชน ของ ไบรน์ ทีมในลีกบ้านเกิดของเค้า ในปี 2015-2016 เด็กชายคนนี้เริ่มแสดงพรสวรรค์ของเขาออกมาได้อย่างหน้าเหลือเชื่อ ด้วยการยิงไป 18 ประตู จาการลงเพียง 14 นัด ดูเหมือนว่าจะเป็นการเริ่มต้นที่ดีของ เจ้าหนูฮาแลนด์ คนนี้ จากฟอร์มอันยอดเยี่ยมของเค้า ทำให้เจ้าตัวถูกดันขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ของสโมสรไบรน์ในวัยเพียง 15 ปี ตลอดระยะเวลาที่เค้าลงเล่นให้สโมสรไบรน์ ฮาแลนด์ ไม่สามารถ ทำประตูได้เลย แต่ด้วยฟอร์มการเล่นของ เออร์ลิง ฮาแลนด์ ไปสะดุดตาศูนย์หน้าในตำนาน อย่าง โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ที่นะเวลานั้นคุม สโมสรโมลด์ ทีมในลีก Eliteserien สูงสุด ของประเทศนอร์เวย์นั้นเอง
เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์ เซ็นสัญญา กับ สโมสรโมลด์ ทีมใน ลีก Eliteserien ของประเทศนอร์เวย์ ที่ตอนนั้นมีศูนย์ระดับตำนานอย่าง โซลชาร์ คุมทัพอยู่ ฮาแลนด์ ลงประเดิมสนามให้กับสโมสรโมลด์ ในการแข่งขัน นอร์เวย์เจียนคัพ เจ้าหนูคนนี้ใช้เวลาอยู่ในสนามเพียงไม่นาน เขาก็สามารถทำประตูแรกในสีเสื้อของโมลด์ได้ทันที เจ้าหนูฮาแลนด์ ยังคงแสดงศักยภาพของตัวเองอย่างต่อเนื่อง 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2018 โซลชาร์ ต้องทึ่งกับเจ้าหนูคนนี้อีกครั้ง ฮาแลนด์ ใช้เวลาเวลาเพียง 21 นาที แรกของเกม เขาทำคนเดียว 4 ประตู และเป็นการทำแฮตทริกแรกของเจ้าตัวอีกด้วย เจ้าหนูคนนี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ฮาแลนด์ อยู่กับสโมสรโมลด์ ตั่งแต่ปี 2017 ถึง 2018 เค้าลงเล่นไป 39 นัด ทำไป 14 ประตู รวมทุกรายการ บวกกับ การคว้ารางวัล ผู้เล่นหน้าใหม่ยอดเยี่ยมแห่งปีของ Eliteserien มาครองอีกด้วย
วันที่ 1 มกราคม 2019 Erling Braut Haaland ย้ายไปร่วมทีมกับสโมสรเรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ทีมในลีก ออสเตรีย บุนเดสลีกา ด้วยสัญญา 5 ปี เขาปรับตัวกับสโมสรใหม่ได้อย่างรวดเร็ว และยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เขาสามารถทำแฮตทริกแรกของตัวเองให้กับสโมสร ในการแข่งขันออสเตรียคัพ ที่เอาชนะ SC-ESV Parndorf 7–1 ต่อมาเขามาทำแฮตทริกแรกในลีก ออสเตรีย ช่วยให้ทีมเอาชนะ Wolfsberger AC 5–2 และเขายังคงไม่หยุดเพียงเท่านั้น ฮาแลนด์ทำแฮตทริกที่สามให้กับสโมสร ช่วยให้ทีมเอาชนะ TSV Hartberg 7–2 เค้าทำ 11 ประตูจากการลงเล่นเพียง 7 นัด ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในฤดูกาลนั้น สามวันถัดมา ฮาแลนด์ ได้รับโอกาสลงเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกครั้งแรก ใน ปี 2019–2020 เค้ายังคงฮอตต่อเนื่อง ฮาแลนด์ทำแฮตทริกที่ 4 กับตัวเองและสโมสร ช่วยให้ทีมเอาชนะราซิ่ง เกงค์ ด้วยสกอร์ 6-2 ฮาแลนด์ เป็นผู้เล่นดาวรุ่งคนที่สองในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกที่ทำประตูในสามนัดแรก ต่อจากคาริม เบนเซม่าโดย เออร์ลิง ฮาแลนด์ ทำหนึ่งประตูใส่ลิเวอร์พูลและทำสองประตูใส่นาโปลี 6 ประตูของเค้าในสามนัดแรกที่ลงเล่นนับเป็นสถิติสูงสุดของแชมเปียนส์ลีก ต่อมาเขาทำอีกหนึ่งประตูในเกมส์เจอนาโปลี ทำให้เขากลายเป็นนักเตะดาวรุ่งพุ่งแรงคนแรกที่สามารถทำประตูได้ครบทั้ง 4 นัดแรก ถือว่าเป็นผู้เล่นคนที่ 4 ที่ทำสถิตินี้ ต่อจาก เซ คาร์ลอส, อเลสซันโดร เดล ปีเอโร และดีเอโก คอสต้า 27 พฤศจิกายน 2019 เขาทำอีกหนึ่งประตูใส่ เกงค์ ทำให้ ฮาแลนด์ เป็นนักนักฟุตบอลคนที่ 6 ที่สามารถทำประตูในรายการนี้ได้มากถึง 5 นัดติดต่อกัน ต่อจาก เดล ปีเอโร, เซอร์เก เรบรอฟ, เนย์มาร์, คริสเตียโน โรนัลโด้ และโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เพียงฤดูกาลเดียวที่เค้าอยู่กับ เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ฮาแลนด์ทำไป 28 ประตู 4 แฮตทริก จาการลงเล่นแค่ 22 นัด รวมทุกรายการ
ตลาดฤดูหนาวประจำเดือน มกราคม 2020 ฮาแลนด์ ตัดสินใจออกเดินทางอีกครั้ง ด้วยการย้ายไปรวมทีม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนท์ ทีมในลีกบุนเดสลีกา ของประเทศเยอรมนี ด้วยสัญญา 4 ปีครึ่ง 18 มกราคม 2020 แฟนๆ เสือเหลืองไม่ต้องรอนาน ฮาแลนด์ ได้ถูกส่งลงสนามเป็นเกมแรกในฐานะตัวสำรอง เค้าใช้เวลาเพียง 34 นาที ก็สามารถทำ แฮตทริกแรกให้ตัวเองในสีเสื้อของดอร์ทมุนท์ได้ทันที เขายังคงฮอตต่อเนื่องด้วยการยิงเพิ่มอีก 2ประตู ในเกมส์ชนะ โคโลญจน์ 5-1 จนทำให้ ฮาแลนด์ เป็นนักฟุตบอลคนแรกของ บุนเดสลีก้า ที่สามารถทำประตูไปได้มากถึง 5 ประตู จากการลงประเดิมสนาม 2 นัดแรก เก่งเกินวัยจริงๆ และเมื่อจบฤดูกาล 2020 เขายิงให้ ดอร์ทมุนด์ ไปถึง 16 ประตู จากการลงเล่น 18 นัด และพาทีมคว้ารองแชมป์ บุนเดสลีกาได้อีกด้วย ปี 2021-2022 ฮาแลนด์ ได้ก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์หน้ากำลังหลักกำลังสำคัญของทีมที่จะขากเขาไม่ได้เลยสักนัด ฮาแลนด์ยิงประตูอย่างต่อเนื่องรวมทุกรายการ 29 ประตู จากการลงสนาม 30 นัด และช่วยให้ต้นสังกัดผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายศึกยูฟ่า แชมเปียนส์อีกด้วย ฮาแลนด์ ก็กลายเป็นนักเตะประวัติศาสตร์ เมื่อเค้าสามารถทำประตูในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ครบ 20 ลูก โดยใช้เวลาแค่ 14 เกมเท่านั้น ซึ่งเป็น 20 ลูกที่เร็วที่สุดตลอดกาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้เขายังสามารถยิงครบ 100 ประตูจากการค้าแข่งของเขา โดยลงเล่นไปเพียง 146 นัด เท่านั้นเอง แต่แล้วหลังจบฤดูกาล 2022 ฮาแลนด์ต้องบอกลาแฟนเสือเหลืองเพื่อไปล่าแชมป์พรีเมียร์ลีก ตามที่ตัวเองได้ฝันเอาไว้
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์ สามารถเลือกเล่นให้ ทีมชาติอังกฤษ หรือ นอร์เวย์ ก็ได้ แต่เจ้าหนูคนนี้ก็เลือกที่จะเล่นให้ทีมชาตินอร์เวย์ ตามบ้านเกิด พ่อ ของเค้า ฮาแลนด์ ติดทีมชาตินอร์เวย์ในหลายๆ รุ่น ตามลำดับ 27 มีนาคม 2018 เจ้าหนูฮาแลนด์ สามารถทำแฮตทริก ช่วยให้ทีมชาตินอร์เวย์ รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี เอาชนะ ทีมชาติสกอตแลนด์ไป 5–4 ทำให้นอร์เวย์ ผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายของ ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ต่อมาในรอบสุดท้ายวันที่ 22 กรกฎาคม ค.ศ. 2018 ฮาแลนด์ สามารถทำประตูให้กับทีมชาตินอร์เวย์รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปีในนัดแรกของกลุ่ม A ที่เสมอกับอิตาลี 1–1 แบบสุดมัน แต่แล้ว 30 พฤษภาคม 2019 โลกฟุตบอลก็ต้องจารึก ชื่อของเจ้าหนูฮาแลนด์ กับการ ทำคนเดียว 9 ประตู ในแมตช์ที่ นอร์เวย์ ชนะ ฮอนดูรัส 12 – 0 นอกจากนี้ ฮาแลนด์ ยังทำสถิติการทำประตูมากที่สุดต่อหนึ่งนัดในฟุตบอลโลกเยาวชน และนัดนี้ก็เป็นนัดที่ชนะขาดลอยมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกเยาวชนอีกด้วย จากผลงานอันยอดเยี่ยมของเจ้าหนูคนนี้ ทั้งในนามทีมชาติ และ สโมสร ทำให้ Lars Lagerbäck โค้ชทีมชาติชุดใหญ่เรียนเค้ามาติดทีม ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 รอบคัดเลือก นัดที่จะพบกับมอลตาและสวีเดน ฮาแลนด์ ลงเล่นนัดแรกให้กับทีมชาติชุดใหญ่เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2019 ในนัดที่พบกับมอลตา ต่อมา วันที่ 4 กันยายน 2020 ฮาแลนด์ ทำประตูแรกให้ตัวเองในนามทีมชาติได้ในนัดที่แพ้ออสเตรีย 1–2 ในการแข่งขันยูฟ่าเนชันส์ลีก ฤดูกาล 2020–2021
เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก
แชมป์ออสเตรียน บุนเดสลีกา ปี 2018-2019
แชมป์ออสเตรียน คัพ ปี2018–2019
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนท์
แชมป์ DFB Pokal ปี 2020-2021
นอร์เวย์
แชมป์ไซเรงกาคัพ ปี2016 ( รุ่นอายุไม่เกิน17ปี )
ผู้เล่นหน้าใหม่ยอดเยี่ยมแห่งปีของ Eliteserien ปี 2018
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของ Austria ปี 2019
รองเท้าทองคำ ฟุตบอลโลกเยาวชนอายุไม่เกิน 20 ปี : 2019
ทีมผู้เล่นหน้าใหม่ยอดเยี่ยมของ UEFA Champions League ปี2019
ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของ Bundes Liga ปี 2020-2021
ผู้หน้าใหม่ยอดเยี่ยมประจำเดือนของ Bundes Liga : มกราคม 2020 , กุมภาพันธ์ 2020
ทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของ Bundes Liga ปี2020-2021
ทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของ European Sports Magazines ปี 2019 – 2020
Golden Boy ปี 2020
FIFA FIFPro World11 ปี 2020 (กองหน้าตัวที่ 4)
Gullballen ปี 2020
Kniksen’s honour award ปี 2020
ผู้ทำประตูสูงสุดใน UEFA Champions League ปี2020-2021
ทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของ UEFA Champions League ปี2020–2021
สำหรับพรีเมียร์ลีกลีกฤดูกาล 2022-2023 นี้ยืนยันแล้วว่า เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์ได้ตอบตกลงย้ายไปร่วมทีม เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่างเป็นทางการแล้ว ด้วยสัญญา 5ปี หลายคนอาจสงสัยในเรื่องนี้ว่าทำไม่ ฮาแลนด์ ถึงตอบปฏิเสธย้ายไปร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้งที่แมนยูเป็นทีมที่ให้ความสนใจ ในตัวของฮาแลนด์มาโดยตลอด สำหรับคอฟุตบอลยุคเก่า คงจะจำเรื่องราวของ อัลฟ์ อิงเก้ ฮาแลนด์ กับ รอย คีน ได้เป็นอย่างดี ปี 2001 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โคจรมาพบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเป็นจังหวะที่ รอย คีน ตั้งใจถีบไปที่เข่าของ ฮาแลนด์ ผู้เป็นพ่อ ทำให้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่ง รอย คีน บอกว่า เขาตั้งใจเอาคืน จากจังหวะของปี 1997 ที่ อัลฟ์ ฮาแลนด์ ทำเขาได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ อัลฟ์ อิงเก้ ฮาแลนด์ มีอาการบาดเจ็บรบกวน จึงไม่ค่อยได้ลงสนามให้ แมนฯซิตี้ สักเท่าไหร่ เขาลงเล่นในลีกแค่ 38 นัด ก่อนจะประกาศเลิกเล่นไปในปี 2003 หรือนี้จะเป็นสาเหตุที่ทำให้ ฮาแลนด์ เลือกย้ายทีมไปแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตามผู้เป็นพ่อก็เป็นได้