นักมวยที่จัดว่ามีความดุดัน น้องโอ๋ ฮาม่ามวยไทย มีลีลาชั้นเชิงในการหาช่องโหว่คู่ต่อสู้ได้ดี มีความแรงหมัดหนัก ยิ่งหากเป็นลูกเตะเจาะยางคู่แข่งถึงกับต้องระวังและหวาดกลัว เพราะเขาสามารถใช้แรงเตะซ้ายขวาได้แบบเท่าเทียมกัน จากนักสู้แดนอีสานค่าตัวแค่เพียง 100 บาท ปัจจุบันค่าตัวพุ่งทะยานสู่หลักล้าน ในฐานะนักมวยของ ONE Championship กว่าจะมีค่าตัวขนาดนี้ผ่านความลำบากกัดทนฟันสู้มาตลอด 26 ปี
โอ๋ ไก่ย่างห้าดาว นับว่าเป็นนักมวยไทย ที่ประสบความสำเร็จในด้านชกมวยจนมีเงินมีทองเข้ามา ปัจจุบันเป็นเจ้าของแชมป์โลกมวย ONE ในรุ่นระดับแบนตันเวท ถือเป็นนักมวยรุ่นใหญ่ระดับตำนานที่ยังมีลมหายใจ ผ่านการชกมวยในประเทศไทยระดับเวทีใหญ่เล็กผ่านมาหมดทุกสังเวียนชนะกวาดแทบทุกแชมป์
อภิเชษฐ โคตานน หรือที่รู้จักกันในนาม น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว เขาเกิดและเติบโตในแดนอีสานจังหวัดสกลนคร ครอบครัวประกอบอาชีพ “ชาวนา” ซึ่งทางบ้านมีฐานะที่ยากจน เมื่อตอนอายุได้ 9 ขวบ เขาก็ได้ไปเห็นเพื่อนบ้านเข้าไปต่อยมวยเตะกระสอบทรายอยู่ค่ายมวยแถวบ้าน จึงได้ขอไปร่วมฝึกซ้อมมวยด้วย จนทางค่ายมองเห็นพรสวรรค์ในตัวของนักมวยเด็กน้อยคนนี้ จึงได้ทำการขึ้นชกมวยทันที ซึ่งเด็กชายโอ๋ใช้เวลาซ้อมมวยได้แค่ 1 เดือนเท่านั้น โดยได้ฉายาขึ้นชกว่า โอ๋น้อย บ้านโนน พอได้ขึ้นชกมวยก็สามารถเอาชนะได้ จนได้ค่าตัวในการขึ้นชกเพียงแค่ 100 บาท
หลังจากที่ชนะมานัดล่าสุด เด็กชายโอ๋ ก็ได้ตะเวนขึ้นชกเวทีภูธรไปทั่วอีสาน แล้วได้พัฒนาความเก่งในด้านมวยไทย ชนะกวาดทุกสังเวียนจนเวลาต่อมานักชกมวยคู่ต่อสู้โซนอีสานก็ไม่มีคู่ต่อกรด้วยในที่สุด
พ.ศ. 2543 โอ๋ ฮาม่ามวยไทย เมื่อไม่มีคู่ชกที่บ้านเกิดสกลนคร ก็ต้องเข้ากรุงเทพ ด้วยวัยอายุเพียงแค่ 14 ปี ซึ่งแม่ของโอ๋ก็ได้มาส่งลูกเป็นกำลังใจให้ พอได้มาอยู่ค่ายมวยใหม่ก็ได้ใช้ชื่อ “โอ๋ ก.เกียรตินันท์” ส่วนการซ้อมในค่ายมวยแห่งนี้ ซ้อมหนักยิ่งกว่าค่ายเก่า จนทำให้ น้องโอ๋ เหนื่อยล้าร่างกาย รู้สึกเศร้าเสียใจถึงขั้นน้ำตาไหล จนคิดถึงบ้านตัวเอง แต่ทางฝั่งครอบครัวบอกโอ๋ให้ฝืนทนเพื่อครอบครัว
แต่ด้วยใจสู้ของน้องโอ๋ ก็ได้ขึ้นไปชกสนามศึกวันธงชัย ถ่ายทอดสดผ่านทีวี ทำให้คนได้ดูแล้วรู้จักตัวตนมากขึ้น ด้วยสไตล์การชกไม่ใช่มวยเข่า มวยหมัดหนัก แต่มีลีลาการชกแบบมีชั้นเชิง เก็บอาวุธคู่ต่อสู้ได้หมด ทำให้การชกในแต่ละครั้งของ โอ๋ เริ่มมีแฟนมวยจับตามองมากขึ้น มีคนอัดฉีดเม็ดเงินให้ในการขึ้นชกทุกสังเวียน จนสามารถส่งเงินกลับบ้านให้ครอบครัว ซื้อรถกระบะให้ ด้วยวัยเพียงแค่ 14 ปีเท่านั้น
หลังจากค่ายมวยเก่ามีปัญหา น้องโอ๋ ก็ได้ย้ายไปอยู่ค่ายใหม่ ใช้ชื่อในนามว่า “น้องโอ๋ ศิษย์ อ.” พ.ศ. 2548 เขาได้สร้างผลงานการชกมวยเอาไว้อย่างยอดเยี่ยม โดยได้ขึ้นชกเป็นประจำที่เวทีมวยลุมพินี ผลการขึ้นชก 11 ไฟต์ชนะทุกไฟต์ จนได้มีโอกาสขึ้นชกชิงแชมป์รุ่น แบนตัมเวต เจอคู่ขึ้นชก สองคม ว.สังข์ประไพ จนสามารถชนะคว้าเข็มขัดมาครองเส้นแรกได้สำเร็จ
ต่อมาก็ได้เดินหน้าป้องกันแชมป์มาตลอด จนได้รับรางวัลจาก “การกีฬาแห่งประเทศไทย” ในฐานะนักมวยไทยอาชีพดีเด่นในปีนั้น เขาสามารถทำเม็ดเงินจากการขึ้นชกให้เวทีมวยลุมพินีได้แบบมหาศาล จนขึ้นชื่อแต่ละครั้งต่อไฟต์สามารถทำเงินได้หลักแสน ซึ่งทุกครั้งที่ได้ทำการขึ้นชกสนามทุกที่นั่งถูกจองเต็มตลอด จนมีฐานแฟนคลับตั้งฉายาใหม่ในนามว่า “ยอดมวย เมืองสกล”
พ.ศ. 2554 ชีวิตน้องโอ๋ ฮาม่ามวยไทย
ไม่ได้มีเส้นทางที่สวยหรูเสมอไป เมื่ออายุได้ 25 ปี เป็นวัยเบญจเพส ชีวิตดิ่งลงต่ำมากที่สุด ไม่ว่าจะการชกมวยเดินไปสังเวียนไหนก็แพ้ตลอดทั้งปี จนเงินเก็บก็เริ่มหมดลงจนประสบปัญหาในด้านการเงินอย่างหนัก แล้วมาต่อปัญหาด้านครอบครัวอีก จนสภาพจิตใจย่ำแย่ลงไป ซึ่งตลอดทั้งปีไม่ว่าจะทำอะไรก็ไม่รุ่ง
พ.ศ. 2558 เป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับแฟนมวยไทยเมื่อทาง น้องโอ๋ ฮาม่ามวยไทย ประกาศหันหลังให้วงการมวยด้วยแขวนนวม หลังจากไฟต์สุดท้ายได้ไปพ่ายแพ้คะแนนกับ หมวกทอง สรยุทธพินดา ที่เวทีราชดำเนินกรุงเทพ ด้วยดีกรีระดับคว้าแชมป์มวยที่ผ่านมาหมดทุกสนาม แต่หลังจากที่ประกาศตัวออกมาเขาก็ไม่มีเงินเยอะจนชีวิตจะกลับมาแย่อีกครั้ง
แต่แล้วในที่สุดได้รับโอกาสสำคัญเมื่อทาง ชาตรี ตรีศิริพิศาล ยื่นข้อเสนอให้น้องโอ๋ ไปเป็นครูมวยไทยฝึกสอน “อีโวลฟ์ ยิม” ประเทศสิงค์โปร ซึ่งการมาครั้งนี้ทำให้ น้องโอ๋ เปลี่ยนแปลงชีวิตไปเลย มีฐานะที่มั่นคงขึ้น ค่าตอบแทนสูงถึงหลักแสนต่อเดือน + กับค่าสอนพิเศษส่วนตัวอีก เขาใช้เวลาชีวิตอยู่ที่โน่นเป็นเวลามากถึง 7 ปี ส่วนทางฝั่งครอบครัวน้องโอ๋อยู่สุขสบายกลับมามีชีวิตที่มั่นคงอีกครั้ง จนสามารถซื้อบ้าน ที่ดิน เลี้ยงซื้อวัว เป็นของขวัญให้ตัวเองได้สำเร็จ
น้องโอ๋ ฮาม่ามวยไทย เมื่อไปเป็นครูสอนอย่างนาน ทำให้อายุของตัวเองขึ้นหลักเลข 3 ไปแล้ว หากเป็นวงการมวยไทยเรียกได้ว่า โรยรา แต่ทางคุณ ชาตรี ตรีศิริพิศาล ได้เอ่ยปากชักชวนให้เขากลับไปคืนสังเวียนในเวที ONE Championship โดยได้ตอบตกลงทันที เพราะเขาอยากรู้ตัวเองว่ายังพอมีแรงไปต่อยมวยสู้พวกรุ่นน้องได้ไหม แต่แล้วก็ได้รับโอกาสในรายการ Championship: Kingdom of Heroes ที่จัดขึ้นในไทย เป็นการต่อยมวยสมัยใหม่ลุ้นกันแค่ 3 ยก ซึ่งน้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว ได้มาเจอกับ Mehdi คู่นี้ลุ้นแลกหมัดเข่าศอกกันแบบสุดมัน ผลการแข่งขันน้องโอ๋เอาชนะไปด้วยคะแนนแบบขาดลายเป็นเอกฉันท์
เข็มขัดมวย ONE รุ่นแรก รุ่นชกแบนตัมเวต น้องโอ๋ ได้ถูกให้เสนอชื่อให้ขึ้นชกในศึกชิงแชมป์มวยไทย โดยได้ไปเจอกับนักชก Han Zihao รายการ ONE Championship: Clash of Legends ซึ่งเอานักมวยระดับตำนานที่ถือว่าเป็นที่สุดได้มาเจอกัน งานนี้แฟนมวยในไทยต่างร่วมส่งเสียงเชียร์ น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว แบบสุดเสียงเป็นมวยหยุดโลกคู่หนึ่งที่ห้ามพลาดเลย โดยผลการแข่งขันเป็นฝั่ง น้องโอ๋ เอาชนะด้วยคะแนนเป็นเอกฉันท์ สามารถคว้าเข็มขัดของรายการมาครองได้สำเร็จ จนในเวลานี้ค่าตัวต่อการขึ้นชกอยู่ที่หลักล้านไปแล้วเรียบร้อย
ปัจจุบัน น้องโอ๋ ฮาม่ามวยไทย ก็ยังรักที่จะต่อยมวยอยู่ ไม่ได้แขวนนวม แต่คิดวางแผนให้ตัวเองเอาไว้แล้วว่าจะกลับไปทำ “ฟาร์มน้องโอ๋” การเกษตรทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ปลูกหญ้า เลี้ยงวัว แกะ บ่อปลา รวมไปถึงการทำช่อง Youtube ชื่อช่องว่า NONG O CHANNEL ที่คุณจะได้ดูคลิปการใช้ชีวิตส่วนตัว และเป็นการสร้างแรงบันดาลใจพูดให้แฟนคลับ หรือ นักมวยรุ่นน้อง ให้ได้เข้ามาสไตล์การใช้ชีวิตน้องโอ๋ว่าเป็นยังไงต่อไปในอนาคต
สนามมวยลุมพินี
โตโยต้า วีโก้ มาราธอน
สนามราชดำเนิน
สมาคมมวยอาชีพแห่งประเทศไทย (กทท.)
ONE Championship